
การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ในการตกแต่งห้องนั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการให้ห้อง หรือบ้าน ของคุณออกมาในสไตล์แบบไหน ห้องนอนสไตล์ไทยๆ ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ยังไง หรือ สไตล์ญี่ปุ่นต้องเลือกแบบไหน วันนี้ Kuramochi Showroom มีคำตอบมาให้ท่านได้อ่านกันค่ะ
จุดเด่นสำคัญของบ้านสไตล์ไทย

- หลังคาทรงสูง เป็นทรงหลังคาที่นิยมใช้กันมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และอาจเรียกได้ว่าเป็นรูปทรงหลังคาที่ช่วยให้มีการระบายความร้อน พร้อมระบายน้ำฝนได้ดีที่สุด เนื่องจากค่าเฉลี่ยแต่ละปีสภาพภูมิอากาศของไทยมีฤดูร้อนประมาณ 70% ส่วนที่เหลือเป็นฤดูฝนที่ตกชุก การออกแบบบ้านโดยเฉพาะส่วนของหลังคาที่ทำหน้าที่กันแดด กันฝน จึงมีบทบาทสำคัญที่จะทำให้การอยู่อาศัยภายในบ้านตลอดทั้งปีเป็นไปอย่างสุขสบายราบรื่น

2. บ้านยกสูงหรือมีใต้ถุน ใต้ถุนบ้าน เป็นพื้นที่กึ่งภายในและภายนอก มีความร่ม แต่มีลมพัดผ่าน จึงเหมาะกับภูมิอากาศของไทยที่ร้อนชื้น อย่างในช่วงบ่ายจะมีแสงแดดจัด ทำให้บริเวณด้านบนบ้านค่อนข้างร้อนมาก คนไทยในอดีตจึงมักจะลงมาทำกิจกรรมต่างๆในบริเวณใต้ถุนของบ้าน ไม่ว่าจะเป็น นั่งพักผ่อน รับแขก ทำงานหัตถกรรม และเลี้ยงสัตว์ ที่สำคัญการยกใต้ถุนสูงจะช่วยระบายอากาศ ทำให้ลมพัดผ่านใต้ถุนและตัวบ้านก็ยังช่วยบังแดดอีกด้วย

3. ไม้ผสมปูน แต่เดิมบ้านไม้จะมีความคลาสสิคในเรื่องของความเป็นไทย แต่ปัจจุบันบ้านไม้ผสมปูนได้รับความนิยม เนื่องจากประหยัดต้นทุน โดยบ้านมีโครงสร้างที่เป็นปูนและมีไม้เป็นส่วนประกอบ หรืออาจผสมผสานระหว่างปูนกับไม้ได้อย่างลงตัว และยังมีความแข็งแรง คงทนในทุกสภาพแวดล้อม

4. โต๊ะหมู่บูชา พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติไทย และเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเรา หลายๆคนที่ที่บ้านมีโต๊ะหมู่บูชา หรือมีห้องพระอยู่ โดยห้ามไม่ให้โต๊ะหมู่บูชาตั้งอยู่ในส่วนปลายเท้าของห้องนอนเป็นอันขาด และควรจัดให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งเป็นการทำให้เรารู้สึกสบายใจ และเป็นการช่วยเสริมสิริมงคลให้แก่ผู้อยู่อาศัย
5. ไม้แกะสลัก ไม้เป็นอีกจุดเด่นของการแต่งบ้านของคนไทยมาช้านาน ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่ได้นำเอาไม้มาเป็นส่วนหนึ่งในการประดับตกแต่งแล้ว ก็จะทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น โดยเราสามารถตกแต่งผนังคอนโดได้ด้วยระแนงไม้ และไม้แกะสลักสวยงาม ที่เล่าเรื่องถึงวัฒนธรรม ความเป็นไทยต่างๆ เป็นการสร้างจุดเด่น และเอกลักษณ์ ให้กับห้องคอนโดของคุณ ด้วยความคลาสสิกแบบไทยๆ ได้อย่างลงตัว

6. เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งพื้นบ้าน เช่น หมอน หรือ ผ้าปูที่นอน ที่ทำจากผ้าไหม ตู้ เตียง ที่ทำจากไม้หลากชนิด อาจจะตกแต่งด้วยการแกะสลักลายแบบไทย ๆ เพื่อเสริมให้ดูมีลูกเล่นมากขึ้น อีกทั้งในปัจจุบันบ้านสไตล์ไทยไม่ใช่เป็นเพียงแต่บ้านเชย ๆ อย่างที่หลาย ๆ คนคิด เพราะเราสามารถตกแต่งบ้านสไตล์ไทยรวมกับสไตล์อื่น ๆ เพื่อให้ออกมาดูทันสมัยขึ้นได้ เช่น ไทย-โมเดิร์น เป็นต้น โดยแค่เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งแบบไทย ๆ ผสมกับการจัดวางในสไตล์โมเดิร์น เพียงเท่านี้บ้านสไตล์ไทยของคุณก็จะดูทันสมัยขึ้นแล้วล่ะ
จุดเด่นสำคัญของบ้านสไตล์ญี่ปุ่น

1. ให้ความสำคัญกับธรรมชาติ เพราะคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับความเป็นธรรมชาติมาก จึงมักจะนำไม้เข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบและตกแต่งเสมอ ไม่ว่าจะด้านโครงสร้างที่มักจะใช้ไม้ทำพื้น ผนัง ประตู หน้าต่าง หรือด้านการตกแต่งที่มักจะใช้ไม้ทำฉากกั้น เฟอร์นิเจอร์ และของกระจุกกระจิก โดยไม้ที่นิยมนำมาใช้ในบ้านบ่อย ๆ ได้แก่ ไม้ไผ่ ไม้เมเปิ้ล ไม้ฮิโนกิ ไม้เฮมล็อก และไม้สนแดง

2. เน้นสีแนวเอิร์ธโทน หลักสำคัญอีกหนึ่งอย่างของการออกแบบบ้านสไตล์ญี่ปุ่น คือ สีแนวเอิร์ธโทน โดยโทนสียอดนิยมของญี่ปุ่นมีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีน้ำตาลที่มาจากไม้ สีเขียวที่มาจากต้นไม้ และสีเทาที่มาจากกระเบื้องหิน ฉะนั้นถ้าหากใครอยากออกแบบและตกแต่งบ้านให้ได้กลิ่นอายแบบญี่ปุ่น พยายามผสมผสานโทนสีเหล่านี้เข้าไว้ด้วยกัน เลือกเฉดสีของเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่แตกต่างกันมากเกินไป แล้วค่อยเน้นลูกเล่นพิเศษจากพื้นผิวของวัสดุ เช่น งานไม้หรืองานสาน เพื่อความไม่น่าเบื่อแทน

3. ตกแต่งน้อยชิ้น แต่มากฟังก์ชั่น บ้านสไตล์ญี่ปุ่นมักจะมีเฟอร์นิเจอร์ไม่ค่อยเยอะ ต่างจากบ้านของคนไทยส่วนใหญ่ที่มักจะมีข้าวของและเฟอร์นิเจอร์เพียบ ดังนั้นถ้าหากใครจะตกแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่น ให้คำนึงถึงการใช้งานเอาเป็นหลัก โดยเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย ดีไซน์เรียบง่าย ดีเทลไม่เยอะ และใช้วัสดุจากธรรมชาติ ส่วนการจัดวางก็พยายามให้อยู่เป็นกลุ่ม ไม่กระจาย มีที่ว่างสำหรับทางเดิน เช่น จัดเข้ามุมหรือวางชิดผนัง

4. เปิดช่องให้แสงผ่าน ไม่ว่าจะหลังเล็กหรือหลังใหญ่ การออกแบบภายในบ้านสไตล์ญี่ปุ่นจะเน้นความโล่ง โปร่ง และสบายเป็นหลัก ซึ่งปัจจัยสำคัญก็มาจากการเปิดบ้านให้แสงธรรมชาติสาดส่องอย่างทั่วถึง โดยวิธีการง่าย คือ การใช้หน้าต่างขนาดใหญ่รอบบ้าน การเจาะเพดานเพื่อทำสกายไลท์ และการใช้ม่านแบบเรียบง่ายและโปร่งแสง

5. ประตูบานเลื่อนคือไอเทมสำคัญ บ้านสไตล์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับประตูบานเลื่อนหรือประตูโชจิ (Shoji) เนื่องจากบ้านญี่ปุ่นมีข้อจำกัดเรื่องเนื้อที่ เลยต้องหันมาใช้ประตูบานเลื่อนเพื่อช่วยเซฟพื้นที่ใช้สอย แถมยังช่วยให้ความโปร่ง ไม่บล็อกวิว และไม่บล็อกแสงอีกต่างหาก โดยส่วนใหญ่ประตูโชจิแท้จะทำจากกรอบไม้และกระดาษโปร่งแสง ทว่าปัจจุบันมีการประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น จึงนิยมทำจากกรอบไม้และกระจก พร้อมมีช่องไม้เป็นตารางสี่เหลี่ยมภายในแทน

6. ทางเข้าบ้านก็ถือเป็นส่วนสำคัญ อีกหนึ่งสิ่งที่บ้านสไตล์ญี่ปุ่นต้องมีก็คือห้องรองเท้าหรือเก็นคัง (Genkan) ซึ่งจะอยู่บริเวณทางเข้าบ้าน เป็นห้องสำหรับเก็บรองเท้าและเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าบ้าน โดยบรรยากาศส่วนใหญ่จะเป็นห้องไม้เรียบ ๆ โล่ง ๆ โปร่ง ๆ สว่าง ๆ ที่สำคัญต้องสะอาดสะอ้านและเต็มไปด้วยตู้เก็บรองเท้ามากมาย หรือที่เรียกว่า getabako